ก่อนทำคางต้องอย่างไรบ้าง?
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับผ่าตัดเสริมคาง
การศัลยกรรมเสริมหรือแก้ไขคาง มักจะเป็นการศัลยกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาเพื่อให้ใบหน้ามีความสมส่วน ดูเรียวรับกับองค์ประกอบใบหน้ามากขึ้น ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่กลมแบน โดยเฉพาะคนเอเชีย ที่มักมีปัญหารูปหน้าแบน การเสริมคางจึงมาช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและดูมีมิติมากขึ้น
ในหลายครั้งเรามักจะเห็นว่าคนที่เสริมจมูกมักมีการเสริมคางเพิ่มต่อ เนื่องจากการสโลปของจมูกจะต้องรับกับใบหน้า การที่มีคางรับกับจมูกจะยิ่งส่งเสริมให้ใบหน้าดูสมส่วนและมีเสน่โดดเด่นออกมา นอกจากการศัลยกรรมเสริมคางเพื่อความสวยความงามแล้ว เหตุผลที่เสริมก็ยังมีการเสริมเพื่อเสริมสิริมงคลอีกด้วย ทั้งนี้การเสริมก็จะขึ้นอยู่กับความเชื่อ และที่ขาดไม่ได้คือเสริมแบบปลอดภัย เสริมให้เข้ากับรูปหน้าโดยมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาก่อนเข้ารับการศัลยกรรมนั่นเอง
Dearclass Clinic จะมาช่วยชี้แนะก่อนที่เหล่าหนุ่มสาวหรือผู้ที่มีปัญหาได้มาทำความเข้าใจเบื้องต้นของการศัลยกรรมเสริมคาง และการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมแบบฉบับง่าย ๆ ให้ได้อ่านกัน
การศัลยกรรมคางมีเทคนิคการทำอยู่ 2 แบบใหญ่ๆ คือ
การผ่าตัดศัลยกรรมคาง จะเป็นการช่วยแก้ไข ปรับปัญหาโครงสร้างของใบหน้าในดูสวยมีมิติมากขึ้น โดยทางทีมแพทย์จะทำการผ่าตัดเสริมซิลิโคนเข้าใบบริเวณใต้กราม เป็นวิธีที่ง่ายต่อการปรับรูปทรง โดยการผ่าตัดจะมีวิธีการผ่าตัดอยู่ด้วยกัน 2 วิธีคือ
การเสริมคางโดยไม่ผ่าตัดหรือการฉีดฟีลเลอร์ เป็นเทคนิคที่ฉีดสารเข้าไปเติมเต็มบริเวณคางให้มีรูปหน้าที่เรียวยาวขึ้น สามารถปั้นรูปทนงได้ตามที่ต้องการ ดูแลง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการผ่าตัดและต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เนื่องจากใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน
หลังจากรู้จักประเภทของการศัลยกรรมเสริมคางไปแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญก่อนเข้ารับการผ่าตัดคือการเตรียมตัวนั่นเอง ทาง Dearclass Clinic ได้สรุปขั้นตอนง่ายๆ มาดังนี้
ขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนเข้ารับการศัลยกรรมเสริมคาง
- เตรียมตัวเข้ารับปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนนัดเข้ารับการผ่าตัด
- ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่และครบมื้อ เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง
- งดดื่มแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากสารจากแอลอฮอล์และบุหรี่จะส่งผลให้แผลเกิดอาการบวมได้หลังผ่าตัด โดยควรงดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดทานยากลุ่มแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน และวิตามินอาหารเสริม เพื่อลดการเกิดผลต่ออาการบวมและฟกช้ำจากอาการเลือดคั่งหลังผ่าตัดได้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- ทำความสะอาดร่างกายให้พร้อมก่อนเข้ารับการผ่าตัด
สรุป
นอกจากขั้นตอนทั้ง 5 ข้อดังกล่าวแล้ว การเตรียมพร้อมทั้งกายและใจเป้นสิ่งสำคัญสิ่งหนึ่งที่ทำให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูได้ดีหลังการผ่าตัด และแน่นอนว่าอาการบวมและเจ็บหลังการผ่าตัดนั้นจะเกิดขึ้นเป็นปกติ หากมีปัญหาที่บวมหรือเจ็บจนมากเกินไปสามารถปรึกษาแพทย์ได้ในทันที เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อาจเป็นอันตรายต่อเราได้นะคะ
ด้วยความห่วงใยจาก DEARCLASS CLINIC คลินิกศัลยกรรมความงามที่มี
มาตรฐานความปลอดภัย และใส่ใจคุณลูกค้า